กรมธรรม์ประกันชีวิต มนุษย์เงินเดือน หลังจากเกษียณอายุการทำงาน

 กรมธรรม์ประกันชีวิต มนุษย์เงินเดือน หลังจากเกษียณอายุการทำงาน

กรมธรรม์ประกันชีวิต มนุษย์เงินเดือน หลังจากเกษียณอายุการทำงาน  หากชีวิตเติมเต็มเพิ่มเติมกับ จะมีความสุขมากแค่ไหน เพราะคนกินเงินเดือนหากวันหนึ่งได้เกษียณอายุ พวกเขาจะมีสิทธิประโยชน์พื้นฐานอะไรบ้างที่สามารถนำมาเป็นเงินทุนเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณ วันนี้ผมมีคำตอบ

 

จเราทุกคน ต่างรู้ดีกว่า รายได้ประจำที่มั่นคง จะหยุดลง เมื่อถึงวันที่เรา ต้องเกษียณ ตั้งใจวางแผนการเงิน แต่ก็ไม่ได้เริ่ม อย่างจริงจัง ซักที เพราะภาระค่าใช้จ่าย มากมาย ก็ยังคง อยู่


จะทำอย่างไรถึงจะสามารถใช้ชีวิต หลังเกษียณ อย่างสบายใจ โดยไม่เป็น ภาระลูกหลาน

 

สิทธิประโยชน์หลังเกษียณที่ผู้ทำงานประจำ หรือเป็นมนุษย์เงินเดือนจะได้รับ หลักๆ มี 3 แหล่งด้วยกัน


1. เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
2. เงินชราภาพจากประกันสังคม
3. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ


1.เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน


เงินชดเชยจะคิดตามระยะเวลาที่ทำงานกับนายจ้างและเงินเดือนสุดท้าย โดยจะได้รับเมื่อเกษียณอายุ หมดสัญญาจ้าง ถูกเลิกจ้าง โดยลูกจ้างไม่ได้เป็นฝ่ายผิด


ยกตัวอย่าง เงินเดือนสุดท้าย 90,000 บาท ทำงานกับนายจ้างรายล่าสุดก่อนเกษียณเป็นระยะเวลา 20 ปี เมื่อเกษียณอายุ จะได้รับเงินชดเชย 400 วัน คิดเป็นเงินประมาณ 90,000 x 400/30 = 1,200,000 บาท

ทั้งนี้ จำนวนเงินชดเชยในตัวอย่าง เป็นการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งการคำนวณเงินชดเชยจะนับตามจำนวนวันย้อนหลังจากวันที่เกษียณหรือออกจากงาน


2.เงินชราภาพจากประกันสังคม


ประกันสังคม มีข้อกำหนดว่า ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม สูงสุดอยู่ที่เดือนละ 750 บาท ซึ่งเงินที่จ่ายไปทุกเดือน ไม่ได้สูญเปล่า โดยได้รับกลับมาในรูปของสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากประกันสังคม เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าคลอดบุตร ค่าสงเคราะห์บุตรรายเดือน และอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ


คือ เงินชราภาพ โดยจะได้รับเมื่อเกษียณอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป และไม่ได้เป็นผู้ประกันตนของประกันสังคมแล้ว


เงินชราภาพที่ได้รับหรือบำนาญรายเดือนหรือเงินก้อน ขึ้นอยู่กับ จำนวนเดือนที่จ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพ ถ้าจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือไม่ถึง 15 ปี จะได้รับเป็นบำเหน็จเงินก้อน


แต่ถ้าจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน หรือตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จะได้รับเป็นเงินบำนาญรายเดือนไปตลอดชีวิต
ยกตัวอย่าง


*คำนวณจากฐานเงินสมทบของประกันสังคม ไม่เกิน 15,000 บาท


สูตรคำนวณเงินบำนาญ ประกันสังคม

กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน ได้รับเงินบำนาญ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
กรณีจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ได้รับเพิ่ม 1.5% ต่อระยะเวลาจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน

จากตัวอย่างการคำนวณเงินบำนาญจากประกันสังคม


กรณีที่จ่ายเงินสมทบเป็นเวลา 15 ปี อัตราบำนาญอยู่ที่ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ดังนั้น ได้รับเงินบำนาญเดือนละ 20% x 15,000 = 3,000 บาท


กรณีที่จ่ายเงินสมทบเป็นเวลา 20 ปี อัตราบำนาญจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ อัตราบำนาญ 15 ปีแรก เท่ากับ 20% และ 5 ปีหลัง เท่ากับ 1.5% x 5 = 7.5% รวมอัตราบำนาญ 20 ปี เท่ากับ 20% + 7.5% = 27.5%


ดังนั้น เงินบำนาญรายเดือน จะอยู่ที่ 15,000 x 27.5% = 4,125 บาทต่อเดือน หรือถ้าคิดเป็นต่อปี ก็เกือบๆ 5 หมื่นบาท


3.เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ


เมื่ออายุ 60 ปี มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นรายเดือนไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิต


ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพ คือ ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ โดยเบี้ยยังชีพที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามช่วงอายุ
เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เงินชราภาพภาพจากประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นสิทธิที่ผู้เกษียณอายุมีสิทธิได้รับ
อย่างไรก็ตาม อาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายหลังเกษียณ เพราะหลังเกษียณก็คงอยากใช้ชีวิตสบายๆ

สถาณการณ์ ผู้สูงอายุ ในไทย และ ทั่วโลก ปี 2564

เปิดลงทะเบียน ผู้สูงอายุ ปี งบประมาณ 2565


ดังนั้น สิ่งสำคัญต้องวางแผนเก็บเงินเพิ่มเติมให้พร้อมก่อนเกษียณ เช่น สะสมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือกองทุนบำเนหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข) ตั้งแต่เริ่มทำงาน


อย่าลืม หากถ้าคุณเติมเต็มจำกัดการความเสี่ยงด้วยประกันภัย คุณจะยิ่งใช้ชีวิตในบั้นปลายได้อย่างมีความสุขเต็มที่  หรือ

สร้างเงินบำนาญ ด้วย กรมธรรม์ประกันชีวิตกรมธรรม์ประกันชีวิต
........
....................
…………………………
อ.ฉัตรชัย ผาสุขธรรม / บทความข่าว
TII ทีไอไอ สถาบันประกันภัยไทย

ประกันบำนาญ ลดหย่อนภาษี

กรมธรรม์ประกันชีวิต แบบ บำนาญ ใช้สำหรับ เลี้ยงชีพ หลังเกษียณ

 

รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ออนไลน์ ปี 2024

คำคมประกันชีวิต

Money Banner

พื้นที่ โฆษณา