Ikigai and work-life balance (生き甲斐) อิคิไก คืออะไร
Ikigai and work-life balance อิคิไก (生き甲斐) คืออะไร Ikigai(生き甲斐) เป็นแนวคิดภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "เหตุผลที่เป็น" หรือ "เหตุผลที่ต้องตื่นขึ้นในตอนเช้า" เป็นคำที่ใช้อธิบายจุดตัดขององค์ประกอบทั้งสี่:
คู่มือที่สำรวจแนวคิดแบบญี่ปุ่นในการค้นหาจุดมุ่งหมายและการเติมเต็มในชีวิตผ่านการบรรจบกันของความรัก ภารกิจ อาชีพ และวิชาชีพ เราเป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆเราเป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆความเป็นเลิศจึงไม่ใช่การกระทำ แต่เป็นนิสัย
องค์ประกอบทั้งสี่: ของ อิคิไก I(生き甲斐) Ikigai and work-life balance
1. **ความหลงใหล Passion (やりがい, Yarigai)**: สิ่งที่คุณรักหรือหลงใหลอย่างสุดซึ้ง
2. **ภารกิจ Mission (使命, Shimei)**: สิ่งที่โลกต้องการหรือสิ่งที่คุณเชื่อว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไร
3. **อาชีพ Vocation (職, Shoku)**: สิ่งที่คุณถนัดหรือสิ่งที่คุณได้รับค่าตอบแทน
4. **อาชีพ Profession (業, Gyo)**: สิ่งที่โลกจะจ่ายให้คุณหรือสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อสนับสนุนตัวเองทางการเงิน
แนวคิดของ ikigai แนะนำว่าเมื่อคุณพบความสมดุลและความกลมกลืนระหว่างองค์ประกอบทั้งสี่นี้ คุณจะมีชีวิตที่สมบูรณ์และมีจุดมุ่งหมายได้ มักเป็นภาพที่ตัดกันขององค์ประกอบเหล่านี้ ซึ่งความหลงใหล ภารกิจ อาชีพ และอาชีพของคุณมาบรรจบกัน
การค้นหา ikigai ของคุณเกี่ยวข้องกับการค้นพบตนเอง การใคร่ครวญ และการทำความเข้าใจคุณค่า ความสนใจ ทักษะ และสิ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณมีความหมาย มันได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และหลายคนใช้เป็นกรอบในการแสวงหาจุดมุ่งหมายและเติมเต็มชีวิตส่วนตัวและอาชีพของพวกเขา
โปรดจำไว้ว่าแนวคิดของอิคิไกนั้นไม่ตายตัวและสามารถพัฒนาไปตลอดชีวิตเมื่อสถานการณ์ ประสบการณ์ และมุมมองของคุณเปลี่ยนไป
หนังสือดี 5 เล่ม ที่จะช่วยคุณให้สามารถควบคุมอารมณ์ ได้ดีขึ้น
แนวคิดของ อิคิไก: Ikigai and work-life balance
1. Origin of Ikigai
**แหล่งกำเนิด**: Ikigai มีรากฐานมาจากเกาะโอกินาว่าของญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอายุขัยที่สูงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง คำนี้ได้รับการยอมรับในวงกว้างเมื่อได้รับการศึกษาโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Blue Zones ซึ่งพิจารณาถึงสถานที่ที่มีผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีและมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข
2.Holistic Approach
**วิธีการแบบองค์รวม**: Ikigai เน้นวิธีการแบบองค์รวมเพื่อชีวิต โดยที่การเติมเต็มส่วนบุคคลมาจากการจัดแง่มุมต่างๆ ในชีวิตของคุณให้สอดคล้องกัน และการค้นหาจุดมุ่งหมายและความสุขในกิจกรรมประจำวัน
3.Longevity and Well-being
**อายุยืนและความเป็นอยู่ที่ดี**: แนวคิดของอิกิไกมักเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและอายุยืน คนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีส่วนร่วมในชีวิตมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและเติมเต็มมากขึ้น
4. Living in the Present
**การใช้ชีวิตในปัจจุบัน**: Ikigai ส่งเสริมการใช้ชีวิตในช่วงเวลาปัจจุบันและค้นหาความสุขในกิจกรรมที่เรียบง่ายในชีวิตประจำวัน มันเกี่ยวกับการค้นหาจุดมุ่งหมายและความสำเร็จในการเดินทาง ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง
5.*Finding Balance
**การค้นหาความสมดุล**: แนวคิดคือการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณถนัด สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่คุณจะได้เป็นรางวัล เป็นการปรับสมดุลที่ละเอียดอ่อนซึ่งสามารถนำไปสู่เนื้อหาและชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น
6.Self-Reflection
**การทบทวนตนเอง**: การค้นพบ ikigai ของคุณต้องอาศัยการไตร่ตรองและทบทวนตนเอง การสละเวลาเพื่อทำความเข้าใจคุณค่า ความสนใจ จุดแข็ง และสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขเป็นสิ่งสำคัญในการระบุอิคิไกของคุณ
7.Not Just Work-Related
**ไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้น**: แม้ว่าแนวคิดของ ikigai สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตการทำงานของคุณได้ แต่ก็ไม่ได้มุ่งเน้นที่อาชีพของคุณเพียงอย่างเดียว ครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์ งานอดิเรก และการเติบโตส่วนบุคคล
8.Personal Journey*
**การเดินทางส่วนตัว**: การค้นหา ikigai ของคุณเป็นการเดินทางส่วนตัว และอาจต้องใช้เวลา ไม่ใช่แนวทางเดียวที่เหมาะกับทุกคน และสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนๆ หนึ่งมีความหมายอาจแตกต่างจากอีกคนหนึ่ง
9.Purpose and Resilience
**จุดมุ่งหมายและความยืดหยุ่น**: การมีอิคิไกที่แข็งแกร่งสามารถช่วยสร้างความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ท้าทาย เมื่อคุณมีจุดมุ่งหมายและความหมายที่ชัดเจน มันจะทำให้คุณมีพลังที่จะเอาชนะอุปสรรคและเดินหน้าต่อไป
จำไว้ว่าการค้นหา ikigai ของคุณไม่ใช่ปลายทาง แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง เมื่อชีวิตเปลี่ยนไป ikigai ของคุณอาจพัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ กุญแจสำคัญคือการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง สำรวจความสนใจของคุณ และน้อมรับจุดมุ่งหมายที่จะนำความสมหวังและความสุขมาสู่ชีวิตของคุณ
ความหลงใหลเป็นอารมณ์หรือความกระตือรือร้นที่รุนแรงและรุนแรงต่อบางสิ่งหรือบางคน มันเป็นแรงผลักดันที่บังคับให้แต่ละคนทำตามความสนใจ งานอดิเรก หรือเป้าหมายด้วยความกระตือรือร้นและทุ่มเท ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหลงใหล:
Passion of Ikigai and work-life balance
1. **Deep Interest ความสนใจอย่างลึกซึ้ง**: ความหลงใหลมีรากฐานมาจากความสนใจอย่างลึกซึ้งหรือความรักในกิจกรรม หัวข้อ หรือสาเหตุเฉพาะ มันเป็นสิ่งที่จุดประกายความตื่นเต้นและความสุขในชีวิตของบุคคล
2. **Motivation and Commitment แรงจูงใจและความมุ่งมั่น**: เมื่อมีคนหลงใหลในบางสิ่ง พวกเขามีแรงจูงใจโดยธรรมชาติที่จะทุ่มเทเวลา ความพยายาม และพลังงานให้กับสิ่งนั้น บุคคลที่มีความกระตือรือร้นมักจะมุ่งมั่นในความพยายามของตนมากกว่าและมีแนวโน้มที่จะฝ่าฟันความท้าทายต่างๆ ไปได้
3. **Flow State สถานะของกระแส**: การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สอดคล้องกับความหลงใหลสามารถนำไปสู่สถานะของ "กระแส" ซึ่งเวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และบุคคลจะหมกมุ่นเต็มที่และจดจ่อกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่
4. **Diverse Passions ความหลงใหลที่หลากหลาย**: ความหลงใหลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนหลงใหลเกี่ยวกับอาชีพ งานอดิเรก การแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ กีฬา หรือสาเหตุที่พวกเขาเชื่อ
5. **Source of Fulfillment แหล่งที่มาของความสำเร็จ**: การไล่ตามความปรารถนาของตนเองสามารถเติมเต็มอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปสู่จุดมุ่งหมายและความเป็นอยู่ที่ดี
6. **Discovering Passion การค้นพบสิ่งที่ชอบ**: การค้นหาสิ่งที่ชอบอาจเกี่ยวข้องกับการสำรวจ การลองทำสิ่งใหม่ๆ และการค้นพบตัวเอง บางคนอาจรู้จักความหลงใหลตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะที่บางคนอาจค้นพบในภายหลัง
7. **Passion and Success ความหลงใหลและความสำเร็จ**: ความหลงใหลสามารถมีบทบาทสำคัญในการบรรลุความสำเร็จและความเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อแต่ละคนหลงใหลในสิ่งที่ทำ พวกเขามักจะทุ่มเทความพยายามที่จำเป็นเพื่อให้เป็นเลิศ
8. **Balance and Burnout ความสมดุลและความเหนื่อยหน่าย**: แม้ว่าความหลงใหลสามารถกระตุ้นพลังได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องรักษาสมดุลเพื่อป้องกันความเหนื่อยล้า การให้ความสำคัญกับด้านใดด้านหนึ่งของชีวิตมากเกินไปอาจละเลยด้านที่สำคัญอื่นๆ
9. **Inspiring Others สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น**: ความหลงใหลนั้นติดต่อกันได้ และบุคคลที่หลงใหลสามารถสร้างแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อผู้อื่นที่อยู่รอบตัวพวกเขาได้
10. **Passion and Adaptability ความหลงใหลและความสามารถในการปรับตัว**: เมื่อสถานการณ์ในชีวิตเปลี่ยนไป ความหลงใหลอาจพัฒนาหรือเปลี่ยนไป การเปิดใจรับการปรับตัวและสำรวจความสนใจใหม่ ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตส่วนบุคคลโดยธรรมชาติ
โดยรวมแล้วความหลงใหลเป็นพลังที่ทรงพลังและเป็นพลังบวกในชีวิตของผู้คน มันสามารถผลักดันให้พวกเขาพยายามอย่างมีความหมาย บรรลุเป้าหมาย และนำไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์และมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพการงาน งานอดิเรก ความสัมพันธ์ หรือการแสวงหาส่วนตัว การโอบรับความหลงใหลสามารถเพิ่มความลึกและความร่ำรวยให้กับชีวิตได้
อิคิไก หาให้เจอก็เป็นสุข
อิคิไก หาให้เจอก็เป็นสุข Ikigai and work-life balance
'อิคิไก' เป็นแนวคิดดั้งเดิมของญี่ปุ่นเพื่อก่อร่างสร้างสุขให้เกิดขึ้นในชีวิต คือเหตุผลที่ทำให้คุณตื่นนอนในตอนเช้า หนังสือเล่มนี้พูดถึงการค้นหา อิคิไก หรือการระบุเจาะจงเป้าประสงค์ แล้วใช้ความรู้ดังกล่าวเพื่อบรรลุความสุขอิ่มเอมในชีวิต
'ยูคาริ มิตซึฮาชิ' ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เติบโตขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เธอจึงเข้าใจแต่แรกเริ่มว่า อิคิไกมีความหมายอย่างไรต่อชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิส และ อิคิไกหาให้เจอก็เป็นสุข' ก็เป็นหนังสือที่เธอตั้งใจเขียนเพื่อแนะนำแนวคิดดั้งเดิมให้กับผู้อ่านรุ่นใหม่
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน แต่เมื่อคุณได้เรียนรู้ที่จะระบุเจาะจง อิคิไกของตนเอง คุณจะใส่ใจกับรายละเอียดในชีวิต และรู้สึกขอบคุณทุกชั่วขณะในแต่ละวัน ด้วยปรัชญาเรียบง่ายและแนวคิดแสนอิสระที่ช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่า หนังสือแสนงดงามเล่มนี้จะกลายเป็นคู่มือที่ทำให้คุณพบชีวิตที่มีความสุข
Ikigai: Achieving Work-Life Balance and Personal Fulfillment** Ikigai and work-life balance
การค้นหา Ikigai: การบรรลุความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการเติมเต็มส่วนบุคคล**
ในโลกปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว การบรรลุความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและความสำเร็จส่วนตัวอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แนวคิดของญี่ปุ่นเกี่ยวกับ Ikigai นำเสนอข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับความกลมกลืนอันละเอียดอ่อนที่โดดเด่นระหว่างชีวิตการทำงานและความหลงใหลส่วนตัวของเรา Ikigai มาจากคำว่า "iki" (ชีวิต) และ "gai" (คุณค่าหรือมูลค่า) โดย Ikigai หมายถึงเหตุผลที่เราตื่นนอนในตอนเช้า การมาบรรจบกันของสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราถนัด สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่เราสามารถตอบแทนได้ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าความเข้าใจและยอมรับอิคิไกสามารถนำไปสู่ชีวิตที่สมดุล มีจุดมุ่งหมาย และเติมเต็มได้อย่างไร
**1. การยอมรับวัตถุประสงค์ในการทำงาน:** Embracing Purpose in Work:**
Ikigai เน้นความสำคัญของการค้นหาความหมายและจุดมุ่งหมายในอาชีพของเรา แทนที่จะมองว่างานเป็นเพียงหนทางไปสู่จุดจบ เราสามารถแสวงหาบทบาทที่สอดคล้องกับความสนใจและจุดแข็งของเรา การทำงานที่เรารักและถนัดทำให้เราได้รับความรู้สึกเติมเต็มจากชีวิตการทำงานของเรา ซึ่งมีส่วนสร้างความพึงพอใจในชีวิตโดยรวม
**2. การระบุความสนใจ:** Identifying Passions:
การค้นพบความสนใจของเราเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรลุความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน มันเกี่ยวข้องกับการใคร่ครวญและทำความเข้าใจว่ากิจกรรมและงานอดิเรกใดที่ทำให้เรามีความสุขและตื่นเต้น การผสมผสานความหลงใหลเหล่านี้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของเราสามารถเพิ่มความรู้สึกของจุดมุ่งหมายและความมีชีวิตชีวาให้กับชีวิตของเรา
**3. จัดสรรเวลาและลำดับความสำคัญ:** Balancing Time and Priorities:
ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานไม่ได้เกี่ยวกับการจัดสรรเวลาให้เท่ากัน แต่เป็นการหาส่วนผสมที่เหมาะสมที่เหมาะกับเรา การจัดลำดับความสำคัญของภาระผูกพันทั้งส่วนตัวและอาชีพช่วยให้เราสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตแต่ละด้านได้ การกำหนดขอบเขตและการเรียนรู้ที่จะปฏิเสธเมื่อจำเป็นคือแนวทางปฏิบัติที่จำเป็นในการบรรลุความสมดุลนี้
Time management แนะนำหนังสือ 5 เล่ม เพื่อการ ฝึกการบริหารจัดการเวลา
**4. ลดความเหนื่อยหน่าย:** Reducing Burnout
แนวคิดของ Ikigai สนับสนุนให้เราก้าวไปข้างหน้าและหลีกเลี่ยงการทำงานหนักเกินไปเพื่อป้องกันความเหนื่อยหน่าย การตระหนักถึงสัญญาณของความเหนื่อยหน่ายและการใช้กลยุทธ์การดูแลตนเอง เช่น การมีสติ การออกกำลังกาย และเวลาในการพักผ่อน ช่วยให้เรารักษาพลังงานและความกระตือรือร้นทั้งในการทำงานและชีวิตส่วนตัว
**5. การผสานความหลงใหลเข้ากับงาน: Integrating Passions into Work**
ในบางกรณี แต่ละคนอาจหาวิธีที่จะรวมความสนใจของตนเข้ากับอาชีพของตน ซึ่งอาจรวมถึงการสำรวจโครงการสร้างสรรค์ โอกาสในการเป็นอาสาสมัคร หรือการแสวงหากิจกรรมเสริมที่เกี่ยวข้องกับอิคิไกของพวกเขา การนำความหลงใหลมาไว้ในที่ทำงาน ความพึงพอใจในงานจะเพิ่มขึ้น
**6. Strengthening Relationships กระชับความสัมพันธ์:**
การสร้างและบำรุงเลี้ยงความสัมพันธ์ที่มีความหมายเป็นส่วนสำคัญของ Ikigai และความสมดุลในชีวิตการทำงาน การใช้เวลาที่มีคุณภาพกับคนที่คุณรักและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่มีความหมายช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์และความรู้สึกเป็นเจ้าของ
**7. Continuous Growth and Adaptation: การเติบโตและการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง:**
Ikigai ไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่ตายตัว แต่เป็นการเดินทางที่พัฒนาไปตามกาลเวลา เมื่อความสนใจ ทักษะ และสถานการณ์ในชีวิตเปลี่ยนไป เราต้องปรับตัวและประเมินความสนใจและจุดประสงค์ของเราใหม่ การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตและความสำเร็จส่วนบุคคล
**บทสรุป:**
Ikigai ทำหน้าที่เป็นแนวทางสำหรับการบรรลุความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและความสำเร็จส่วนตัว เราสามารถสร้างชีวิตที่กลมกลืนและมีจุดมุ่งหมายได้ด้วยการทำความเข้าใจความหลงใหลของเรา จัดให้สอดคล้องกับงานของเรา จัดลำดับความสำคัญ และดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของเรา การโอบรับ Ikigai ช่วยให้เราค้นพบความสุขในกิจกรรมประจำวันของเรา สานสัมพันธ์กับผู้อื่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และนำไปสู่การดำรงอยู่ที่มีความหมายและสมดุลมากขึ้น
The Power of Now รีวิวหนังสือ พลังแห่งจิตปัจจุบัน
- Details
- Hits: 377