ระบบบำนาญ ของไทย แย่สุด ในโลก
จัดอันดับ ระบบบำนาญ ทั่วโลก ปี 2020 มีการสำรวจเพียงแค่ 39 ประเทศทั่วโลก ไทยอยู่อันดับที่ 39 ของโลก อยู่อันดับที่ 5 ของประเทศอาเซียน
เมอร์เซอร์ (Mercer) บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์สัญชาติอเมริกัน ร่วมกับ ซีเอฟเอ (CFA Institute) สถาบันวิเคราะห์ด้านการเงินระดับโลก และ Monash Business School แห่งมหาวิทยาลัยโมนาช (Monash University) ในออสเตรเลีย เผยรายงานดัชนีระบบบำนาญทั่วโลกประจำปี 2020 ที่ทำการสำรวจ ระบบรายได้ยามเกษียณของ 39 ประเทศ ซึ่งครอบคลุมประชากร 2 ใน 3 ของโลก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา
ระบบบำนาญ คืออะไร
คือระบบรายได้ ยามเกษียณ ของ ทุกคนว่าจะมีเงินเก็บ มีรายได้ต่อเนื่อง หลังจากที่ ต้องเกษียณ อายุ จากงานประจำที่ทำอยู่มาหลายปีได้อย่างไร และ ระบบบำนาญนั้น ครอบคลุม เบี้ยยังชีพ ,ระบบประกันสังคม,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ,Provident Fund : PVD และ กองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพ RMF เป็นต้น
เกณท์ วิธีการวิเคราห์ะ ระบบบำนาญ เมอร์เซอร์ Mercer CFA Institute
1 ความเพียงพอ (adequacy) จะมุ่งตรวจสอบ ผลประโยชน์ที่ผู้เกษียณได้รับ / การออกแบบระบบบำนาญ / ระดับการออม / การเป็นเจ้าของบ้าน และ การเติบโตของสินทรัพย์ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เพื่อพิจารณาความสามารถในการจัดหารายได้หลังเกษียณว่าเพียงพอหรือไม่
- มีระบบบบำนาญให้ผู้มีรายได้น้อย อย่างเหมาะสม ในระดับที่สมเหตุสมผล
- อัตราทดแทนรายได้ อยู่ที่ 70% ของค่ากลางรายได้ก่อนเกษียณ
- มีกระแสรายได้จากผลประโยชน์ยามเกษียณสะสม อย่างน้อย 60%
2 ความยั่งยืน (sustainability) ได้แก่ สินทรัพย์สุทธิ / ประชากรศาสตร์ / การใช้จ่ายของภาครัฐ / หนี้สาธารณะ / และ การเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
- ประชากรวัยทำงาน อย่างน้อง 80% เป็นสมาชิก ระบบบำนาญเอกชน
- สินทรัพย์ของ กองทุนบำนาญ มีสัดส่วนเกิน 100% ของ GDP
- อัตรามีส่วนร่วมในกำลังแรงงานผู้สูงอายุ อย่างน้อย 80%
3 ความยึดมั่นในหลักการ (Integrity) จะคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อย่างเช่น กฎระเบียบ / การกำกับดูแล / ธรรมาภิบาล / การคุ้มครอง / การสื่อสาร และต้นทุนการดำเนินงาน
- มีการตรวจตรา และ ควบคุมระบบบำนาญเอกชนอย่างเข้มงวด
- มีการสื่อสาร เช่น การจัดทำรายงานประจำปี และ รายงาน คาดการณ์ รายได้ยามเกษียณ อย่างสม่ำเสมอ
หลักเกณฑ์ การคำนวณ คะแนน สำหรับ ระบบ บำนาญ ตามแนวคิดของ Mercer
- ใช้หลักความพอเพียง 40%
- ใช้หลักความยั่งยืน 35%
- ใช้ความยึดมั่น Integrity 25%
เกณท์ วัดระดับ ระบบบำนาญ ของธนาคารโลก
ธนาคารโลก ใช้หลัก 5 เสาร์ ดังนี้
โดยเสาหลักที่ 0 หรือ สวัสดิการขั้นพื้นฐาน เป็นระบบการดูแลจากภาครัฐ ใช้เงินงบประมาณจากภาษีของประชาชน และผู้ที่ได้รับความคุ้มครองไม่ต้องมีส่วนร่วมในการออมเพื่อให้ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ ซึ่งสวัสดิการภายใต้เสาหลักนี้ประกอบด้วย ระบบบำนาจข้าราชการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เสาหลักที่ 1 คือ หลักประกันทางสังคม ที่รัฐจัดให้แก่แรงงานในระบบ หรือการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ คือ กองทุนประกันสังคม มาตรา 33,39
เสาหลักที่ 2 เป็น การออมภาคบังคับ เพื่อให้แรงงานได้มีรายได้หลังเกษียณ เมื่อรวมกับ เสาหลักที่ 1 แล้ว อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ ร้อยละ 50 – 60 ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย ประกอบด้วย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
เสาหลักที่ 3 เป็น การออมภาคสมัครใจ เพื่อให้ แรงงานที่มีความสามารถออมเงินและต้องการเพิ่มรายได้หลังเกษียณเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพิ่มเติมจาก เสาหลัก 1 และเสาหลักที่ 2 โดยมีนโยบายการลงทุนที่เปิดโอกาสให้สมาชิกมีหลายทางเลือกในการลงทุน มีการกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุน บริหารจัดการลงทุนโดยภาคเอกชน ประกอบด้วย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ประกัน กองทุนประกันสังคมมาตรา 40 และกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)
เสาหลักที่ 4 คือ ระบบการใช้ทรัพย์สินอื่นมารองรับการใช้ชีวิตช่วงหลังเกษียณ รวมถึงการสนับสนุนในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการอื่นๆ เช่น การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่น ๆ อาทิ บ้าน ซึ่งนํามาใช้ขอสินเชื่อสําหรับผู้สูงอายุ หรือที่เรียกว่า reverse mortgage ได้
ระบบบำนาญของไทย และอาเซียน
จากการจัดอันดับของ Mercer จาก 39 ประเทศทั่วโลก พบว่า สิงคโปร์ มีระบบบำนาญที่ดีที่สุด มีคะแนน 71.2 คะแนน อยู่อันดับ 7 ของโลก ทีเหลือตามตาราง
อันดับ |
ประเทศ |
คะแนน |
7 |
สิงคโปร์ |
71.20 |
19 |
มาเลเซีย |
60.10 |
30 |
อินโดนีเซีย |
51.40 |
36 |
ฟิลิปปินส์ |
43.00 |
39 |
ไทย |
40.80 |
ไทยรั้งอันดับบ๊วย จาก 39 ประเทศที่มีการสำรวจ มีคะแนนแย่ที่สุด 40.8 คะแนน แต่ก็มีการเพิ่มขึ้น จาก 39.40 เมือปี 2019เมื่อแยกตาก 3 หลักเกณฑ์ ของ Mercer ในแต่ละด้าน พบว่า
- ความพอเพียง ไทยได้คะแนนะ 36.80 คะแนน
- ความยั่งยืน ได้ 40.8 คะแนน
- ด้านความยึดมั่นในหลักการ อยู่ที่ 47.30 คะแนน
ปัจจุบัน คนไทยที่อยู่ใน ระบบประกันสังคม จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ สูงสุดเดือนละ 6,375 บาท (กรณีส่งเงินสมทบ เกิน 30 ปี) เนื่องจากเงินชราภาพกำหนดเพดานเงินนำส่งอยู่ที่ 3% ของฐานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท หมายความว่า หากผู้ประกันตนจะจ่ายเงินสมทบในอัตราสูงสุดที่ 750 บาทต่อเดือนเท่านั้น ทำให้บำนาญขั้นต่ำของไทยไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น ทั้งที่เงินเดือนที่ได้รับอาจสูงกว่า 15,000 บาท
ระบบบำนาญของไทย มีวงเงินรวมกว่า 3.85 ล้านล้านบาท หากเมื่อเทียบกับมูลค่าจีดีพีของไทย 16.7 ล้านล้านบาท (ปี2562) ถือว่าความพอเพียงต่ำมาก ถ้าเทียบกับที่ Mercer CFA แนะนำว่าควรจะมีมูลค่าสินทรัพย์ของระบบบำนาญเกินกว่า 100% ของจีดีพี
อย่างไรก็ดี Mercer CFA แนะนำให้ประเทศไทยยกระดับระบบบำนาญทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มความคุ้มครอง การยกระดับการสนับสนุนขั้นต่ำให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำ เพิ่มข้อกำหนดสำหรับระบบบำนาญของเอกชน
ซึ่งประเด็นดังกล่าวนั้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงปัญหาและข้อจำกัด ขณะนี้กำลังอยู่ในการศึกษาและพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมมากขึ้นโดยเฉพาะทั้งด้านความพอเพียง ความครอบคลุม และความยั่งยืน
ระบบบำนาญทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโควิด 19
- ผลทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้น
- ระดับรายได้ลดลง
- อัตราดอกเบี้ย นโยบาย ในระดับต่ำ
- การลดเงินปันผลของบริษัทต่างๆ
- นักลงทุนถือเงินสดมากขึ้น
- หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น
ทำให้มูลค่าสินทรัพย์กองทุนบำนาญลดลงในปี 2020
เครดิต ข้อมูล news TrueId
สร้างบำนาญ ให้ตัวเอง ไม่จำเป็นต้อง ง้อ ระบบสวัสดิการของรัฐ เริ่มต้นออมเงินวันนี้ ถึงอายุเป้าหมายที่คุณ เกษียณ มีเงินรายงวด ให้คุณ ต่อเนื่องสนใจ ทัก
- Details
- Hits: 1574